สุขภาพจิต ที่แปรปรวน
สุขภาพจิต แย่เกิดจากกรรมคนเราทุกวันนี้อาจจะมีอารมณ์ที่แปรปรวนกันบ้าง แต่การที่อารมณ์ขุ่นมั่วเช่นนั้นก็อาจจะเกิดจากการกระทำหลาย ๆ อย่างรวมกัน หรือแม้แต่การทำกรรมเอาไว้ แต่บางครั้งสิ่งรอบตัวเราอย่างเช่น คนรอบข้างบ้าง สิ่งต่าง ๆ รอบตัว หรือไม่ก็สภาพแวดล้อมก็มีส่วนที่ทำให้เรามีจิตใจที่ขุ่นมัวก็ได้
สุขภาพจิต ของคนเรานั้นจริง ๆ ก็เป็นเรื่องที่สำคัญเช่นกัน เพราะถ้าเรามีีสุขภาพจิตที่ดีอะไรต่อมิอะไรก็จะสวยงามไปหมด มองเห็นสิ่งใดก็ไม่ขุ่นมั่ว แล้วชีวิตของเราก็จะดีขึ้นตามมา สภาพจิตใจนั้นเป็นสิ่งสำคัญของการดำรงชีวิตก็ว่าได้ เพราะถ้าเราเป็นคนที่มีสุขภาพจิตที่ดีก็มีแต่คนที่อยากที่จะคบหาสมาคมด้วย ซึ่งก็ต่างกับคนที่มีสุขภาพจิตที่ขุ่นมัวไม่มีใครอยากที่จะเข้าใกล้ได้
คนที่มีสุภาพจิตที่ดีนั้นก็เป็นคนที่อารมณ์ดี ใบหน้ายิ้มแย้ม ใครเห็นใครก็อยากที่จะพูดคุยด้วย การที่เราจะทำให้สุขภาพจิตดีได้นั้นก็ขึ้่นอยู่กับตัวของเราเอง แต่ถ้าบางคนมีจิตใจที่ไม่ดี ขี้โมโหก็อาจจะมีเรื่องของ "กรรมเก่า" ตามมาก็ได้ เพราะถ้าใครที่มีสุขภาพจิต หรืออารมณ์ที่ขี้โมโหโทโส เจ้าอารมณ์ เป็นคนที่ดุร้าย มีจิตใจที่หยาบกระด้าง หรือแม้กระทั่งชอบทำการทารุณต่อสัตว์ หรือแม้แต่คนก็สามารถที่ทำได้ นั่นแสดงว่าชาติที่แล้วนั่นเค้าผู้นั้นไม่ชอบทำบุญทำกุศล หรืออาจจะทำบุญด้วยอาการที่ไม่เต็มใจ อาจจะโดนบังคับให้ทำบุญ และอีกทั่งยังขี้เหนียวในเรื่องที่จะทำบุญอีก จึงทำให้เค้าเหล่านั้นมีสภาพจิตใจที่ไม่นิ่ง ขี้โมโห ดูอะไรก็ไม่มีสวยงามเหมือนคนอื่น ๆ เค้ามอง
เราได้เกิดมาในชาตินี้แล้วถ้าในชาติหน้าเราไม่อยากที่จะเป็นดั่งคนลักษณะนั้นเราก็ต้องมีการแก้ก่อนที่เรื่องนั้นจะเกิดขึ้นกับเรา นั่นก็คือ การแก้กรรม "ให้เราหมั่นที่จะทำบุญทำทาน หมั่นสวดมนต์ไหว้พระ และใหัรักษาศีลบ้าง โดยใหัปฏิบัติธรรมทุก ๆ 3 เดือน ๆ ละ 7 วัน" เพียงเท่านี้ในชาติหน้าเราจะได้เป็นคนที่มีจิตใจดี มีใจที่สงบไม่ขุ่นมัว
คนเราพูดถึงว่าถ้าจะพูดว่าไม่เชื่อเรื่องเวรเรื่องกรรมก็คงไม่น่าจะได้ เพราะการที่เรากระทำอะไรก็ตามส่วนมากก็จะมีผลตามมาทั้งสิ้น ผลกรรมที่ตามมานั้นไม่ว่าจะเป็นชาตินี้ หรือชาติหน้ายังไงซะก็ตามมาทันเราให้เราได้รับกรรมอยู่ดี ทางที่ดีเราเลือกที่จัปฏิบัติตนได้ว่า "ควรทำอะไร และไม่ควรทำอะไร" เรามากระทำแต่สิ่งที่ดี ๆ เผื่อว่าชาติหน้ามีจริงเราจะได้ไม่ต้่องทนทุกข์ทรมานเหมือนในชาตินี้ที่เราต้องมาลำบาก หรือถ้าเราสบายอยู่แล้วเราก็ควรหมั่นทำบุญเพื่อเพิ่มผลบุญให้ต่อ ๆ ไป
กรรมของแต่ละบุคคลไม่มีกรรมใดที่บุคคลอื่นจะชดใช้แทนให้ได้ แต่อาจจะมีผู้ที่ต้องมารับกรรมแทนทั้ง ๆ ที่ตัวของเค้าเหล่านั้นไม่ได้กระทำกันก็มี ถ้าเป็นเช่นนี้เราเลือกที่จะทำดีกันเอาไว้ดีกว่า ที่เราคิดจะทำชั่ว เมื่อรู้เช่นนี้แล้วเรามาเริ่มตั้งแต่บัดนี้ก็ยังไม่สายจนเกินไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น